
ต่อจากตอนที่แล้วครับ
หนังสือ The Happiness Advantage บอกว่าหลักการของความสุขมี 7 ข้อด้วยกัน ซึ่งเล่าไปแล้ว 3 ข้อในตอนที่แล้ว มาดูข้อที่เหลือกันครับ
.
4) Failing Up
หนังสือบอกว่า เวลาเกิดปัญหา สภาพจิตใจเราก็เป็นไปได้ 3 ทาง ทางแรกคือ วนเวียนอยู่กับปัญหา ย่ำอยู่กับที่ ทางที่2คือ ดำดิ่ง ย่ำแย่ พาตัวเองไปสู่จุดที่แย่กว่าปัญหาตอนแรกก และ ทางที่3 คือ หลุดออกจากปัญหา เรียนรู้และแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนเกิดปัญหา
แต่นั่นแหล่ะ ทางที่สามมันดูดี แต่ก็ไม่ง่าย หนังสือบอก เพราะหลายครั้งเราสู้ชีวิตแล้ว แล้วชีวิตมันสู้กลับ พอเจอซ้ำๆหลายรอบ บางคนก็เลยท้อแท้ไป ซึ่งก็ไม่แปลก แค่น่าเสียดาย
การที่คนจะมองทางเลือกที่ 3 นั้น หนังสือบอกว่า มันเริ่มจากการเลือกมองเหตุการณ์ หนังสือยกตัวอย่างว่า เหมือนกับว่าเราเดินเข้าธนาคาร แล้วบังเอิญมีโจรเข้ามา แล้วบังเอิญโจรยิงโดนแขนขวาเราคนเดียวอีก … บางคนก็มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นโชคร้าย ซึ่งก็ปรกติ แต่บางคนก็อาจมองว่ายังโชคดีที่โดนแค่แขน
หนังสือบอกว่า นิสัยการมองว่า ยังมีความโชคดีในโชคร้าย จะช่วยให้เรามองเห็นทางเลือกที่ 3 ได้ครับ
หนังสืออ้างถึงงานวิจัยหลายงานถึงเรื่องมุมมองการอธิบายเหตุการณ์ ว่าจะมองบวกหรือลบ โดยไปวิจัยกับนักกีฬา ทั้งมือสมัครเล่น และ มืออาชีพ ไปจนถึงทำวิจัยกับนายหน้าขายประกัน ซึ่งผลพบว่า คนอธิบายเหตุการณ์ในแง่บวก จะมีแนวโน้มมี performance ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
5) The Zorro Circle
Zorro ในที่นี้คือตัวละครจากหนังเรื่อง The Mask of Zorro … ใครมีอายุหน่อยแบบผมก็จะคุ้นชื่อนี้ดี … ในหนัง พระเอกได้ฝึกดาบกับสุดยอดนักดาบคนหนึ่ง ซึ่งในการฝึกตอนแรกนั้น อาจารย์เขียนวงกลมเล็ก ๆ บนพื้น พระเอกต้องฝึกต่อสู้ในวงกลมเล็ก ๆ นั้น ฝึกให้เก่ง แล้วค่อยขยายไปฝึกต่อสู้ในที่กว้างขึ้น
ในชีวิตของเรามีหลายด้านให้รับผิดชอบ ซึ่งทำให้บางคนมีปัญหาว่าเสียการ control ไป ทางออกที่หนังสือแนะนำคือ ให้เปรียบกับการฝึกของ Zorro ว่า ให้ขีดวงเล็ก ๆ ที่เราดูแลให้ได้ก่อน แล้วค่อยขยายวงออกไปเรื่อย ๆ
หนังสือแนะนำให้เริ่มจากวงที่เรียกว่า self-awareness คืออย่างน้อยต้องรู้ตัวให้ได้ก่อน ไม่ใช่ปล่อยไปตามอารมณ์ จากนั้นค่อย ๆ ขยายวงไปยังเรื่องที่สำคัญอื่น ๆ แล้วไล่ไปเรื่อย ๆ
อาจจะมีนักพูด หรือ โค้ชต่าง ๆ สอนให้เรามุ่งมั่น พุ่งชนเพื่อความสำเร็จ แต่หนังสือบอกว่า ชีวิตเรามันเป็นมาราธอน ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ไล่ทำไปที่ละเรื่อง เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ แล้วค่อยขยายผล จะประสบความสำเร็จแบบยังยืนกว่า
6) The 20-second rule
ปัญหาสำคัญของความสำเร็จคือการเริ่มลงมือทำ ซึ่งทุกคนก็รู้ดี แต่บางครั้งเราก็ไม่มีกำลังใจพอที่จะลุกขึ้นทำอะไรบางอย่าง
ทั้งนี้เพราะ บางที่ Will power เรามีไม่พอที่จะทำสิ่งนี้ หรือ อาจจะมีบางอย่างมาล่อใจเราให้ไปทำสิ่งอื่น
หนังสือบอกว่า เราควรทำให้อุปสรรคของเราลดน้อยที่สุด ทำยังไงก็ได้ให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่อยากทำนั้นง่าย ซึ่งหนังสือใช้คำว่า 20-second rule คือเป็นคำตลก ๆ ที่บอกว่า อยากหัดเล่นกีตาร์ใช้มั้ย ให้วางกีตาร์ให้ในห้อง ตรงจุดที่หยิบง่าย ๆ ประมาณว่า เดินไป 20 วินาทีก็ถึงแล้ว
หลัก 20-second rule สรุปก็คือ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเวลา แต่เป็นว่า ทำให้สิ่งที่อยากทำมันเข้าถึงได้ง่าย เช่น อยากจะไปวิ่งตอนเช้า ก็ให้ใส่ชุดวิ่งเข้านอนไปเลย ตื่นมาก็จะเหลือแค่ล้างหน้า ใส่รองเท้า แล้วก็วิ่งได้
หลักการนี้ก็พบได้ในหนังสือเกี่ยวกับการสร้างนิสัยทั้งหลายครับ ซึ่งหนังสือบอกว่าการสร้างความสุขนั้นมันต้องทำให้เป็นนิสัย ซึ่งนิสัยเริ่มจากการใช้ 20-second rule นี้
7) Social Investment
มีการทดลองหนึ่งของ Harvard ได้ติดตามชีวิตคนจำนวน 268 คนตั้งแต่ปี 1930 จนถึงปัจจุบัน แล้วดูว่ามีอะไรบ้างเป็นปัจจัยของความสำเร็จ อะไรคือความแตกต่างระหว่างแต่ละคน ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า การความสัมพันธ์ระหว่างคน (relationship with other) คือปัจจัยสำคัญของความสุข
หนังสืออ้างงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ว่าคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้คนรอบข้าง มีแนวโน้มจะมีความสุขมากกว่า ไปจนกระทั่งหายป่วยไวกว่า
หนังสือเลยแนะนำให้เราลงทุนเวลา ลงทุนแรงไปกับการเข้าสังคม ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
หนังสือบอกว่า บริษัทที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือ ช่วยเหลือกันจะประสบความสำเร็จกมากกว่าด้วย เช่นบางบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงาน ระดมเงินบริจาคให้กับเพื่อนพนักงานคนอื่นที่กำลังไม่สบายเป็นต้น (อันนี้บ้านเราก็คงทำกันเป็นปรกติอยู่แล้ว อ่ะนะ)
.
รีวิวยาวหน่อยนะครับ เพราะบางหลักการที่หนังสือนำเสนอ มันต้องเขียนอ้างอิงนิดว่าที่มาของชื่อมาจากไหน จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
เป็นหนังสือที่ดี เหมาะสำหรับการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิต ตัวหนังสือมีการอ้างอิงถึงงานวิจัย และ ตัวอย่างต่าง ๆ เยอะมากก เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เราเชื่อว่า หลักการแต่ละข้อนั้นดีและสอดคล้องกันยังไง
หลักการบางข้ออ่านแล้วอาจจะไม่ใหมมาก แต่ความสนุกของการอ่านเล่มนี้คือ ตัวอย่างต่าง ๆ ที่นำมาเสนอครับ อ่านเพลินเลย
.
เล่มที่ 45 / 2565
อ่านบทความย้อนหลังทั้งหมด
https://growthgame.co/article/