
The Map is Not the Territory
เคยเจอมั้ยครับ เวลาคุยกับคนเก่ง ๆ ได้ฟังคนเก่งๆ ตัดสินใจทำไมฟังแล้วรู้สึกว่าพี่คนพูดดีจัง มองปัญหาขาดจังเลย ทำไมตัดสินใจได้เร็วและดีขนาดนี้ อยากเก่งอย่างพี่เขาจัง
สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ใครบางคนตัดสินใจได้เป็นระบบคือสิ่งที่เรียกว่า mental model ครับ
Mental model แปลได้ว่า แบบจำลองทางความคิด คือ Pattern หรือ สูตรสำเร็จที่เราใช้ในการมองโลก ช่วยให้เราเข้าใจเหตุการณ์ได้ง่ายขึ้น และยังเป็นเหมือนเครื่องมือในการคิด ที่ทำให้กระบวนการตัดสินใจไม่ซับซ้อนเกินไป ช่วยให้เราตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น ด้วยความมั่นใจมากขึ้น และทำให้ทุกอย่างเป็นระบบ
Mental model มีเยอะมาก เพราะเป็นเหมือนองค์ความรู้ที่มนุษย์รวบรวมไว้ โดยที่คนที่มี mental เยอะ ก็จะตัดสินใจได้ดีขึ้นซึ่ง Mental model นี้สามารถมาจากศาสตร์หลากหลาย ไม่ว่าจะวิทยาศาสตร์ ปรัชญา หรือเศรษฐศาสตร์
มีคำกล่าวว่า Great thinker นั้นมักจะมี mental model จำนวนมากที่ช่วยให้เขาตัดสินใจและใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เปรียบเหมือนคนที่มีแต่ค้อน ก็แก้ปัญหาได้ระดับนึง เจออะไรก็เอาค้อนทุบไปเรื่อย แต่ถ้าเรามีเลื่อย ตะไบ มีด ขวาน เราก็แก้ไขปัญหาได้ง่าย ราบรื่นขึ้น เหมือนมีมีด Swiss
ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) สุดยอดนักลงทุนในตำนานเพื่อนซี้ของ Warren Buffett ก็เป็นอีกคนที่มี mental model เยอะมาก ซึ่งเขาใช้ในการประกอบการตัดสินใจและช่วยในการทำความเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ
ปู่ Buffett เคยถึงกับกล่าวว่า “Charlie has the best 30-second mind in the world. He goes from A to Z in one move. He sees the essence of everything before you can even finish the sentence.”
ซึ่งปู่ชาร์ลี มังเกอร์ เคยบอกว่า เขามีประมาณ 100 models ที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งปู่แกก็แนะนำให้พวกเราสะสม mental model เหล่านี้เก็บไว้ใช้
ว่ามาเยอะแล้ว แล้ว ไอ้ mental model นี่มีอะไรบ้าง
เดี๋ยวผมจะทำเป็นซีรีย์ของโพสนะครับ แบบว่าจะค่อย ๆ เล่าไปเรื่อย ๆ
.
The Map is Not the Territory (แผนที่ไม่ใช่พรมแดน)
คืองี้ครับ โลกเรามันซับซ้อนเราต้องการภาพจำลองของโลก เพื่อช่วยให้เราเดินทางได้ง่ายขึ้น เหมือนกับเวลาเรากำลังเดินทางครับ ที่ต้องมีแผนที่ประกอบการเดินทาง แต่แผนที่ก็ไม่ใช่เส้นทางจริง ขับไปแล้วอาจเจอว่าไม่ตรงกับ Map เช่นมีรถติดบ้าง ถนนปิดบ้าง แบบนี้เป็นต้น
ถ้าเรามั่นใจว่า map 100% ก็อาจเจอทางตันได้ ผมเองก็เคยเป็นเชื่อ map และ GPS แต่สุดท้ายไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ การใช้ map ที่ดีคือ ใช้ได้ แต่อย่าลืมใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจเฉพาะหน้าของตัวเองด้วย แต่ถามว่าไม่มี map เลยได้ไหม ตอบเลยว่าก็ไม่ได้เหมือนกัน
การปรับใช้ก็เช่น work plan การทำงาน ที่เป็นเหมือนแผนที่ ว่าเราจะทำอะไรก่อนหลัง ต้องทำอะไรบ้าง แต่ว่าในชีวิตจริง พอทำงานแล้วก็จะเจอว่ามันไม่เคยเป็นตามแผนหรอก มีโน่นนี้ต้องแก้ไข ที่เราต้องคอยปรับตามหน้างาน ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของชีวิต
แต่ถ้า work plan มันไม่เคยแม่น แล้วเราจะไม่มี work plan เลยได้ไหม ทุกท่านก็คงตอบได้ทันทีเหมือนกันว่า ไม่ได้ นั่นคือ work plan อ่ะต้องมี แต่อย่าไปยึดติดมาก เราต้องพร้อมปรับตามหน้างาน
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Resume ของพนักงานใหม่ ซึ่งให้ภาพรวมของผู้สมัคร แต่ต้องสัมภาษณ์และทดลองทำงานจริง ๆ เพื่อเข้าใจเขา
สำหรับผม mental model ตัวนี้สอนว่า ก่อนทำอะไรต้องมี map แต่เมื่อทำแล้ว ควรใช้วิจารณญาณปรับตัวให้เหมาะสม
The Map is Not the Territory เตือนเราว่าแผนที่หรือโมเดลเป็นแค่การตีความภาพรวมของสถานการณ์ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เราจึงต้องมีการปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งบางครั้งอาจไม่ตรงกับสิ่งที่แผนหรือโมเดลบอกไว้ การยึดติดกับแผนที่ 100% อาจทำให้เราไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
เดี๋ยวตอนหน้ามาคุยกันต่อครับ ว่า มี mental model อื่นอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ น่าเอามาสะสมเก็บไว้ใช้ ก็อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับเกมมิฟิเคชัน ที่เป็นธีมหลักของ page นี้ แต่แบบว่าขอเล่าหน่อยนะครับ ผมว่ามันน่าสนใจดี
เพื่อนๆ เคยวางแผนมาอย่างดี แต่พอเอาเข้าจริง… ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนกันบ้างไหมครับ? 😅 มาเล่าให้ฟังกันหน่อย! แชร์กันไว้ เผื่อช่วยให้คนอื่นเข้าใจแนวคิดนี้ง่ายขึ้น 😉
#Mental Model ตอนที่1 #GrowthGame
