
เป้าหมายสำคัญของเกมมิฟิเคชันคือ การใช้กลไกเกมในการจูงใจพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ใช้เกมเพื่อความสนุก
ซึ่งพฤติกรรมที่เราต้องการจูงใจนั้นก็มีหลากหลาย แต่โจทย์พฤติกรรมที่เกมมิฟิเคชันมักจะเจอคือ การทำให้ผู้ใช้กลับมาใช้แอปหรือบริการซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังครับ ว่ามีกลไกเกมน่าสนใจอะไรบ้าง ที่เกมมิฟิเคชันนำมาใช้เพื่อจูงใจและกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากกลับมาทำซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน
.
7 กลไกเกม จูงใจให้คนกลับมาเล่นทุกวัน
1. Streaks
หนึ่งในกลไกเกมที่มีพลังมากที่สุดคือ “Streaks” หรือ “การรักษาสถิติประจำวัน” ครับ สตรีคมีพลังมาก เพราะมันไม่ได้บอกแค่ว่า “คุณได้ทำอะไรไปแล้ว” แต่มันกำลังบอกว่า “ถ้าคุณหยุดทำตอนนี้ ทุกอย่างที่สะสมมาจะหายไป!” คือมนุษย์เราไม่ชอบเสียอะไรที่ลงทุนไปแล้ว
ข้อพึงระวัง: หากผู้เล่นพลาดวันหนึ่ง อาจทำให้เขาหมดกำลังใจเล่นต่อ ทางแก้คือต้องมี ‘ตัวช่วย’ รักษาสตรีค หรือทำให้เริ่มใหม่ได้ง่าย
2. Daily Quest
ถ้าจะให้คนกลับมาเล่นทุกวัน มันต้องมี “อะไรบางอย่างที่ใหม่และน่าสนใจให้ทำ” อย่างสม่ำเสมอ Daily Quest นี้ดีเพราะสร้างแรงกระตุ้นให้คนกลับมา ด้วยความรู้สึกว่า “วันนี้มีอะไรใหม่ให้ทำ ไม่ซ้ำกัน” และ อีกอย่างที่สำคัญคือคนจะรู้สึกดีที่ได้ทำภารกิจสำเร็จ ซึ่ง Weekly หรือ Monthly Quest ก็สามารถนำมาใช้ร่วมได้เช่นกัน
ข้อพึงระวัง: Daily Quest ต้องไม่น่าเบื่อ ถ้าเป็นแค่การทำซ้ำ ๆ (เช่น กดล็อกอินรับแต้มทุกวัน) คนอาจเบื่อและเลิกทำ ควรมีความหลากหลายหรือเซอร์ไพรส์ เช่น วันที่ 7 ได้ของพิเศษ
3) Progress Bar
Progress bar หรือแถบความคืบหน้านั้นทำให้เรา “รู้สึกว่าเรากำลังก้าวหน้า” และเมื่อมันใกล้ถึง 100% มันจะยิ่งกระตุ้นให้เรากลับมาเล่นต่อ และอีกอย่างหนึ่งคือมนุษย์เราเกลียด “อะไรที่ยังไม่เสร็จ” ครับ การมี Progress bar ยังบอกผู้เล่นด้วยว่า มีอะไรที่ยังทำไมเสร็จ ค้างคา
ข้อพึงระวัง: Progress bar ที่ออกแบบไม่ดีอาจทำให้คนหมดแรง เช่น ถ้าเริ่มจาก 0% แล้วขึ้นช้าเกินไป คนจะรู้สึกว่าไกลเกินไป ควรให้ขึ้นเร็วช่วงแรก เพื่อสร้าง momentum แล้วค่อยๆ ยากขึ้น
4. Level
นอกจาก Progress bar แล้ว ระบบเลเวล เป็นอีกกลไกที่ช่วยให้คนรู้สึกถึงความก้าวหน้า กระตุ้นให้คนเล่นต่อ เพราะมันให้ความรู้สึก “ฉันต้องไปให้ถึงขั้นต่อไป” ถ้าเคยเล่นเกมแนว RPG จะรู้ดีเลยครับว่าเราจะกลับมาเก็บ EXP ทุกวันเพื่อให้อัปเลเวล แม้ว่าเราอาจจะยังไม่รู้ว่าเลเวลสูงขึ้นไปแล้วทำอะไรได้ก็ตาม
ข้อพึงระวัง: ถ้าขึ้นเลเวลแล้วไม่มีอะไรใหม่ คนอาจหมดไฟได้ ควรมี “ปลดล็อกสิ่งใหม่ ๆ” เช่น ได้ไอเท็มใหม่ หรือสิทธิพิเศษ
5. Variable Rewards
มนุษย์ชอบเซอร์ไพรส์ ครับ Variable Rewards (รางวัลแบบคาดเดาไม่ได้) คือรางวัลที่ทำให้เราต้องลุ้นว่าจะได้อะไร หรือ เจออะไร กระตุ้นให้คนกลับมาเล่นทุกวันเพราะ “ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะได้อะไร!” นึกถึงกาชาปองก็ได้ครับ หมุนไข่นี่สนุกสุด ๆ
ข้อพึงระวัง: ต้องระวังไม่ให้รางวัลแย่เกินไป ถ้าคนรู้ว่าของที่ได้แทบไม่มีค่า เดี๋ยวผู้เล่นก็จะเลิกสนใจ
6. Torture Break
Torture Break คือเทคนิคที่ให้ผู้เล่นหยุดเล่นและรอ เช่น อั้นจำนวนรางวัลหรือจำนวนครั้งที่เล่นต่อวัน เทคนิคนี้ใช้ความอดทนของเราโดยทำให้เราต้องรอ บางครั้งการให้คนได้หยุดเล่นกลับจูงใจให้เขาอยากกลับมาเล่นอย่างต่อเนื่องได้ครับ
ข้อพึงระวัง: ถ้าต้องรอนานเกินไป บางคนอาจเบื่อและเลิกเล่นได้ เราอาจให้มี “วิธีเร่งรัด” ได้บ้าง เช่นไอเท็มพิเศษ
7. Time-Limited Events
มนุษย์เกลียดการพลาดโอกาส (FOMO – Fear of Missing Out) ครับ 555 การมีกิจกรรมพิเศษแบบจำกัดเวลา แทรกมาเป็นระยะเนี่ย จะช่วยสร้างสีสันและจูงใจให้คนกลับมาเล่นได้ครับ นึกถึงพวก 11.11 ได้
ข้อพึงระวัง: ถ้าใช้บ่อยเกินไป คนจะรู้สึกว่า “เดี๋ยวก็มีอีก” และหมดความตื่นเต้น เราควรใช้เป็นครั้งคราว
.
สรุป: 7 กลไกเกมที่ช่วยให้คนกลับมาเล่นทุกวัน !
– Streaks + Daily Quest → กระตุ้นให้กลับมาทุกวัน
– Progress bar + Leveling System → ทำให้รู้สึกว่ากำลังก้าวหน้า
– Variable Rewards + Torture Break → สร้างความตื่นเต้นและทำให้อยากรอ
– Time-Limited Events → เร่งกระแส ทำให้กลัวพลาด เหมาะสำหรับใช้เป็นการเสริม
.
ก็หวังว่าจะเป็นแนวทางให้ทุกท่านเลือกใช้เกมมิฟิเคชันสำหรับใช้จูงใจคนให้กลับมาเล่นซ้ำ ๆ หรือทำบางอย่างเป็นประจำทุกวันนะครับ
นอกจากการจูงใจให้คนทำทุกวันแล้ว ยังมีโจทย์พฤติกรรมอื่นที่เกมมิฟิเคชันเราเจอบ่อย เช่น จูงใจให้คนทำพฤติกรรมบางอย่างมากขึ้น หรือเริ่มทำพฤติกรรมใหม่ ๆ เดี๋ยวตอนหน้ามาคุยกันครับ ว่าพฤติกรรมนี้เหล่ามีกลไกเกมอะไรน่าสนใจที่เราเอามาปรับใช้ได้บ้าง
ว่าแต่ เพื่อนชอบเทคนิคไหนที่ตกเพื่อน ๆ ได้บ่อยที่สุดครับ ของผมนี่ Torture Break เลยครับ 555
#Gamification ตอนที่ 111 #GrowthGame #เกมมิฟิเคชัน #เกมมิฟิเคชั่น
