
ตอนก่อนหน้าโน้น เราได้คุยกันเรื่องกลไกเกมที่น่าสนใจสำหรับจูงใจให้คนอยากกลับมาเล่นซ้ำ ๆ ทำพฤติกรรม “ซ้ำ ๆ” เดี๋ยววันนี้มาคุยสร้างพฤติกรรมใหม่ สร้าง “นิสัยใหม่” ให้กับผู้เล่นกันครับ
พอคุยเรื่องสร้างนิสัยใหม่แล้ว ส่วนตัวแล้วผมชอบหนังสือชื่อ Atomic Habits มาก เพราะให้หลักการที่ดีสำหรับการลุกขึ้นมาสร้างนิสัยใหม่ดี ๆ โดยในหนังสือได้ให้หลักการไว้ 4 ข้อ ซึ่งดีมาก
คือพอมีหลักให้เกาะ เราก็เลือกกลไกเกมได้ง่ายขึ้น มาดูกันครับว่ามีกลไกเกมอะไรน่าสนใจบ้าง
.
หลักการสร้างนิสัยใหม่ 4 ข้อจากหนังสือ Atomic Habits และ กลไกเกมที่น่าสนใจ
1) Make it Obvious (ทำให้ชัดเจน) สิ่งที่มองเห็นและเข้าถึงง่าย เราจะทำมันมากขึ้น เช่น กลัวลืมกินยา ก็ย้ายไปวางไว้ในมุมที่เห็นชัด กลไกเกมที่น่าสนใจก็จะเป็นกลุ่มที่ช่วยเสริมการมองเห็น เช่น
– Daily Quest (ภารกิจรายวัน) คือการเตือนให้เราทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ลืม เช่น กินน้ำวันละ 8 แก้ว
– Progress Bar (แถบความคืบหน้า) พอทำทุกวันแล้วก็เสริมด้วยแถบความคืบหน้าให้ผู้เล่นได้เห็นว่า ทำมาเท่าไหร่แล้ว มีอะไรบ้างที่ยังทำไม่เสร็จ เพราะเมื่อเห็นความคืบหน้า เราก็จะรู้สึกอยากทำต่อ แล้วก็พอเห็นว่ามีอะไรยังทำไม่เสร็จ บางคนก็จะรู้สึกหงุดหงิด อยากทำ
– Habit Tracker (ตารางบันทึกพฤติกรรม) คือการเช็กว่าเราทำพฤติกรรมมากี่วันแล้ว วันไหนพลาดบ้าง อาจใช้วิธีกาปฏิทินง่าย ๆ เพื่อช่วยให้เห็นว่าทำต่อเนื่องเท่าไหร่แล้ว
2) Make it Attractive (ทำให้น่าสนใจ) ถ้าสนุก น่าสนใจ เราจะอยากทำมากขึ้น เช่น ออกกำลังกายอาจน่าเบื่อ เราก็เปิดซีรีส์ดูไปด้วยให้มันสนุกขึ้น ซึ่งกลไกเกมที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจก็เช่น
– Achievement & Badges (เหรียญรางวัล) พอทำสำเร็จบรรลุเป้าหมายสำคัญ ก็ให้รางวัลเป็น achievement / badge ช่วยกระตุ้นให้อยากสะสมความสำเร็จ สร้างความรู้สึกว่าเรากำลังเก่งขึ้น
– Story & Narrative (เรื่องราว) การใส่เรื่องราว ใส่เนื้อเรื่องลงไปก็ช่วยให้กิจกรรมน่าทำขึ้นครับ เหมือนแอป Zombie Run ที่เป็นแอปวิ่งออกกำลังกายที่มีเรื่องราวว่าเรากำลังวิ่งหนีซอมบี้อยู่
– Set Collection (สะสมเป็นชุด) คือมีอะไรบางอย่างให้ผู้เล่นได้สะสมให้ครบชุด ก็ดึงดูดให้อยากทำมากขึ้นได้ เพราะรู้สึกมีอะไรให้เก็บอย่างต่อเนื่อง เช่น สะสม badge เป็นต้น
3) Make it Easy (ทำให้ง่าย)
ยิ่งเริ่มง่าย ยิ่งมีโอกาสทำได้ต่อเนื่อง เช่น ออกกำลังกายวันละ 30 นาทีอาจยากไป ก็เริ่มที่วันละ 5 นาทีก่อน ซึ่งกลไกเกมที่ช่วยให้เริ่มต้นและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ก็เช่น
– Mini Quest (ภารกิจเล็ก ๆ) ถ้ากิจกรรมมันยากไป ทำให้ง่ายลงด้วยการแบ่งเป้าหมายใหญ่ให้เป็นก้าวเล็ก ๆ
– Countdown Timer (นับเวลาถอยหลัง) เทคนิคนี้ช่วยลด Overthinking กระตุ้นให้ลงมือทำทันที แม้จะไม่ทำให้กิจกรรมนั้นง่ายขึ้น แต่ช่วยให้ตัดสินใจเร็วขึ้น บางทีคนเราก็คิดมากไปก่อนลงมือทำ
– Glowing Choice (ตัวเลือกเรืองแสง) เทคนิคนี้คือทำบางทางเลือกให้ดูเด่น น่าทำขึ้นมา เช่น ใช้สีที่แตกต่าง ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ บางทีตัวเลือกเยอะ คนก็งง เราก็ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
4) Make it Satisfying (ทำให้พอใจ) ถ้าได้รับรางวัล เราจะอยากทำซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาได้รางวัลทันที เช่น อ่านหนังสือก็ให้รางวัลตัวเองด้วยขนมสักชิ้น กลไกที่น่าสนใจก็จะเป็นกลุ่มที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่า “มีรางวัลตอบแทนทันที”
– Point (แต้ม) คือการให้ feedback กับผู้เล่นทันทีว่าที่เพิ่งทำไปนั้นดีมากน้อยเพียงใด อาจให้เป็นคะแนนสะสม หรือดาวก็ได้ เช่น ที่ทำไปเมื่อครู่นี้ทำดีมาก ได้ 3 เต็มเลย
– Level (เลเวล) คนเรารู้สึกดีเวลาเห็นว่าตนเองเก่งขึ้น เติบโตขึ้น การเลเวลอัพเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยสร้างความภูมิใจและยังช่วยกระตุ้นให้ทำต่อเนื่อง
– Surprise Rewards (รางวัลแบบสุ่ม) การมีอะไรเซอร์ไพรส์ผู้เล่นเป็นระยะ ก็ช่วยให้คนสนุกขึ้นและพอใจขึ้น กระตุ้นให้อยากทำอีก เช่น แทนที่จะให้รางวัลแบบตายตัว เราก็ให้เป็นกล่องให้ผู้เล่นได้ลองเปิดสุ่มดู
.
ก็เป็นตัวอย่างกลไกเกมที่ผมมองว่าน่าสนใจ สามารถนำมาช่วยจูงใจให้เกิดนิสัยใหม่ได้
เราก็คุยกันเรื่องกลไกเกมสำหรับทำพฤติกรรม “ซ้ำ ๆ” และพฤติกรรม “ใหม่” กันมา 2 ตอนละ เพื่อน ๆ มีพฤติกรรมอื่นแบบไหนที่สนใจบ้างไหมครับ?
#Gamification ตอนที่ 113 #GrowthGame #เกมมิฟิเคชัน #เกมมิฟิเคชั่น
