Tag: เกมมิฟิเคชั่น
-
การสร้างแรงจูงใจภายใน ด้าน Relatedness
หัวใจของเกมมิฟิเคชันคือการสร้าง แรงจูงใจภายใน (intrinsic motivation) ให้เกิดขึ้นกับผู้เล่นครับ แรงจูงใจภายในมีองค์ประกอบหลายตัวครับ แต่องค์ประกอบที่สำคัญอันหนึ่งคือ Relatedness ซึ่งคือ การได้รู้สึกเชื่อมโยงกับคนอื่นครับ หรืออีกนัยหนึ่งคือ คนเราจะรู้สึกจูงใจ และ เต็มใจทำบางสิ่งบางอย่าง หากได้รู้สึกว่าตนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ตัวเองอยู่ โดยการได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้น ไม่ใช่แค่ว่าเรามีชื่อเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม เราก็จะมีแรงจูงใจ พร้อมทุ่มเททำอะไรบางอย่างให้กลุ่ม แต่เรายังต้องการการยอมรับจากกลุ่มด้วย เช่น นอกจากการได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแล้ว ตัว relatedness นี้ ก็ยังรวมถึงการได้รู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของ เป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งนั้น ๆ ด้วย ประมาณว่า ถ้าคนมองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา เขาก็ไม่จูงใจให้อยากทำ หรือ มีส่วนร่วม . คำถามคือ แล้วเราจะสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นกับสมาชิกในกลุ่มได้อย่างไร? เอาจริงก็มีเทคนิคสอนไว้มากมายครับ แต่ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากที่อยากจะเล่าลืมกันคือ “ความยุติธรรม” ครับ สังคมที่สมาชิกรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมรู้สึกว่าไม่แฟร์ ก็ยากที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกรัก และ ทุ่มเทให้กลุ่มได้ ตัวอย่างเช่น บางบริษัทมีการประเมินผลการทำงานของพนักงานช่วงปลายปี เพื่อปรับเงินเดือนและให้โบนัส ซึ่งถ้าเกิดมีพนักงานรู้สึกว่าผลออกมาไม่แฟร์ ประมาณว่า ทำไมบางคนทำน้อยแต่ได้ประเมินออกมาดีกว่า แบบนี้เป็นต้น องค์กรแบบนี้ สุดท้ายพนักงานก็อาจจะลาออก หรือ…
-
Ethics of Gamification
Ethics of Gamification เราทุกท่านก็คงทราบกันดีแล้วนะครับว่าเกมมิฟิเคชันคือการจูงใจคนด้วยกลไกเกมเราสามารถใช้เทคนิคเกม ทำให้งานที่เคยน่าเบื่อนั้นสนุกขึ้น ไม่ว่าจะกับนักเรียน พนักงาน หรือ ลูกค้า . แต่ทีนี้ถ้าเราใช้เทคนิคเกมมิฟิเคชันไป “หลอกล่อ” ให้คนทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำขนาดนั้น ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ คือ ทำให้เขารู้สึกสนุกกับการทำงาน จนทำงานหนักเกินจำเป็นล่ะ ประมาณว่าอยากเอาชนะ อยากจะได้รางวัล จนทำงานหามรุ่งหามค่ำ … แบบนี้ก็ไม่ค่อยโอเคละ แต่ถามว่าผิดมากหรือเปล่า? มันก็เป็นเส้นบาง ๆ ครับ ว่าแบบไหนเรียกว่าจูงใจ แบบไหนเรียกว่าหลอกล่อ (คือผมก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดีนะ ขออนุญาตใช้คำว่าหลอกล่อไปก่อนละกันนะครับ ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า Manipulate) . ผมรู้จักน้องคนหนึ่ง ที่ว่าง ๆ ก็ไปขับรถให้กับ App หนึ่ง ซึ่งน้องก็เล่าว่า ขับเพลินมากเลยเพราะใน App จะมีเป้าหมาย มี notification มีหลายอย่างจูงใจให้น้องเค้ารู้สึกอยากขับรถไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายขับแทบทั้งวันจนล้าไปหมด ตอนท้ายน้องเค้าก็ต้องตัดใจบอกว่า กำหนดให้ตัวเองขับแค่นี้ล่ะ ไม่ไปมากกว่านี้ละ . อย่างตัวผมเอง วันก่อนผมก็ไปจองโรงแรมเพื่อไปเที่ยวกับที่บ้าน…
-
Octalysis Framework ตอนที่4
ตอนนี้เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่า Octalysis Framework นั้นเวลาออกแบบให้เลือกว่าจะใช้ แรงจูงใจ (Core Drives) ด้านไหนบ้าง แล้ววาดเป็นรูปออกมาคล้าย ๆ กับ spider chart ซึ่งเราสามารถต่อยอดออกไปได้อีกระดับ โดยเอา Octalysis Framework ไปเชื่อมโยงกับ player’s journey ว่าเมื่อช่วงเวลาที่ผ่านไป เราจะปรับ Octalysis ของเราอย่างไรให้เหมาะสม . ซึ่งทางคุณ Yu-kai Chou ก็ได้บอกว่า player’s journey เนี่ย มี 4 ระยะด้วยกันคือ Discovery คือ ระยะแรกสุดที่จูงใจให้ผู้เล่น อยากจะมาเริ่มใช้ เกมิฟิเคชันของเรา Onboarding คือ ขั้นตอนที่เราจะสอนผู้เล่นถึงกฎและเครื่องมือในการเล่นเกมิฟิเคชันของเรา Scaffolding คือ ระยะปรกติของผู้เล่น ที่เข้ามาใช้ระบบแล้ว และ ต้องทำอะไรบางอย่างซ้ำ ๆ Endgame เป็นระยะสุดท้าย หลังจากผู้เล่นได้ผ่านการเล่นมาอย่างโชกโชนแล้ว เราจะรักษาผู้เล่นของเราไว้อย่าไรดี จริง…
-
Octalysis Framework ตอนที่3
Octalysis Framework ตอนที่3 กลับมาคุยกันต่อเรื่อง Octalysis ครับ ตอนนี้เราก็ทราบกันแล้วว่า ตามหลักการของ Octalysis นั้นมีแรงจูงใจทั้งหมด 8 ด้าน (8 Core Drives of Gamification) ทีนี้พอเราจะออกแบบ เราก็จะสามารถเลือกได้แล้วครับว่า อยากจะให้ระบบเกมมิฟิเคชันของเรานั้น ใช้แรงจูงใจอะไรบ้าง และ เทคนิคต่าง ๆ ที่อยากจะใช้สำหรับแต่ละด้านมีอะไรบ้าง ซึ่งคุณ Yu-kai Chou จะให้ทำออกมาเป็น Score สำหรับแต่ละด้านด้วยครับ ว่า ให้แต่ละมุมนี้มีน้ำหนักมากน้อยขนาดไหน … เช่นถ้าเน้นด้านนี้เราเน้นมาก ก็ให้คะแนนมาก มันก็จะได้ออกมาเป็นรูปเหมือน spider chart และ ตรงนี้ จะช่วยให้เราเห็นภาพง่ายมากขึ้นครับ ว่าระบบที่เราออกแบบมานั้น ในภาพรวมน้ำหนักมันเอียงไปทางไหน เช่น White Hat หรือ Black Hat มากกว่ากันเป็นต้น แล้วมันสอดคล้องกับเจตนาของเราหรือไม่ เล่ามาอาจจะงง ดูรูปที่แปะมาด้วยก็ได้ครับ จะเห็นง่ายขึ้น…
-
Green Gamification: เกมมิฟิเคชัน เพื่อสิ่งแวดล้อม
เกมมิฟิมเคชันได้ถูกออกไปทำในหลากหลายมิติมาก และอีกด้านที่เริ่มถูกเอามาใช้มากขึ้นคือด้านที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรียกกันว่า “Green Gamification” เกมมิฟิเคชันมีเป้าหมายสำคัญคือ จูงใจให้คนทำพฤติกรรมบางอย่าง (Desire Bahavior) ที่เคยน่าเบื่อ ให้รู้สึกสนุกน่าทำมากขึ้นด้วยกลไกเกม โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่อาจน่าเบื่อ ไม่สนุก หรือไม่ก็เป็นพฤติกรรมใหม่ๆ ที่คนไม่เคยทำมาก่อน การจะให้ลุกขึ้นมาเริ่มทำอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่าย เกมมิฟิเคชันเลยมาตอบโจทย์การจูงใจได้เป็นอย่างดี ตัวอย่าง Green Gamification SAP ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ได้ใช้ Gamification เพื่อลดการปล่อยมลพิษของรถยนต์และค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง โดยเขาได้พัฒนา ‘TwoGo’ ขึ้นมา ให้พนักงานของตนใช้บริการ Carpool โดยพนักงานจะได้แต้ม เห็น Progess ของเพื่อนร่วมงานคนอื่น และ ที่เด็ดคือ สามารถบริจาคเงินที่เขาประหยัดได้เข้าองค์กรการกุศล ซึ่งมีพนักงาน 20,000 คนได้เข้าร่วม ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมของทั้ง บริษัท SAP เอง ตัวพนักงาน และ สิ่งแวดล้อม เรียกง่ายๆว่า win-win-win TOYOTA รถยนต์โตโยต้ารุ่น Prius ได้ใช้ Gamification ในการจูงใจให้คนขับรถด้วยวิธีที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยที่หน้าจอ…
