
ตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบเกมมิฟิเคชันให้กับหลายองค์กร
ซึ่งหลังจากที่เราได้ระดมสมองกันแล้ว เราก็จะพบว่าเรามีไอเดียเกมมิฟิเคชันดี ๆ มาเยอะเลย
ทีนี้ก็จะเกิดคำถามตามมาว่า แล้วเราจะเลือกทำเกมมิฟิเคชันไหนก่อนหลังดี เพราะแต่ละอันก็ดูน่าสนใจ น่าสนุกทั้งนั้น
.
พอมาถึงจุดนี้ ผมก็จะแนะนำว่าเราสามารถใช้ Effort vs Impact matrix ได้นะ
Effort vs Impact matrix นี้เป็น matrix 2×2 ที่หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกันดี
โดยแกนนึงจะเป็นการประเมิน ไอเดียนี้ ทำง่าย หรือ ทำยาก และ อีกแกนคือ ไอเดียนี้ มีผลกระทบสูง หรือ ต่ำ
ถ้าทำได้ง่าย แล้วผลกระทบสูง แบบนี้ก็ควรทำก่อน
แต่ถ้าทำก็ยาก แถมได้ผลกระทบน้อย แบบนี้ก็ไม่ควรทำ หรือเอาไอเดียไปปรับปรุงใหม่แล้วค่อยทำ เป็นต้น
.
เรื่องการประเมินว่า ไอเดียเกมมิฟิเคชันนี้ทำได้ง่าย หรือ ยากนั้น มักจะประเมินกันได้ง่ายครับ เพราะ เราพอเล็งได้ว่า มันใช้เงินมากน้อยแค่ไหน ใช้คนเท่าไหร่ ทำนานมั้ย แล้วทางเทคนิคมันยากหรือเปล่า
แต่สิ่งที่มักจะประเมินกันยากคือ Impact ว่าผลกระทบมันสูงหรือต่ำเนี่ย ดูยังไงดี
.
ตรงนี้ถ้าเราเข้าใจหลักการของเกมมิฟิเคชันแล้ว เราก็จะพอประเมินได้ไม่ยากนักครับคือ ให้ย้อนกลับไปมองที่เป้าหมายแรกของเรา ว่าเราต้องการจูงใจพฤติกรรมอะไร อะไรคือพฤติกรรมที่พึงประสงค์
ถ้าไอเดียเกมมิฟิเคชันไหน ตอบโจทย์พฤติกรรมที่พึงประสงค์ หรือ แก้ gap ของพฤติกรรมนั้นได้ตรง ๆ เราก็บอกได้แล้วว่า ไอเดียนี้มี impact สูงครับ
.
นั่นคือ เวลาทำเกมมิฟิเคชัน เราต้องมาคุยกันให้ดีว่า ตกลงแล้วเราอยากได้อะไร อะไรคือพฤติกรรมที่พึงประสงค์ พอเป้าหมายเราชัด ถึงตอนลงมือทำ ต้องเลือกว่าจะทำอะไร มันก็จะง่ายครับ
.
จริง ๆ Effort vs Impact matrix นี่ดีมากนะ ช่วยให้เราประเมินไอเดีย ประเมินโครงการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นว่าควรทำอะไรก่อนหลัง แต่ว่า Effort vs Impact matrix เนี่ยก็มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการใช้ด้วย
ไว้เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังในโอกาสหน้าครับ
#gamification ตอนที่ 70