
เมื่อปี 1911 ได้มีทีมนักสำรวจ 2 ทีมแข่งกันว่า ใครจะสามารถพิชิตขั้วโลกใต้ได้ก่อนกัน
ขออนุญาตเล่าแบบรวดรัดคือ ทีมแรกมีความพร้อมมากกว่าทีมที่ 2 แต่สิ่งที่แตกต่างคือ การเตรียมตัว และ กลยุทธ์ ในการเดินทาง
ซึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญของทีมที่ 2 คือ ตั้งเป้าว่าจะเดินให้ได้วันละ 20 ไมล์ทุกวัน แม้ว่าอากาศจะดี หรือ เลวร้ายเพียงใด ในขณะที่ทีมแรก จะปรับระยะทางตามสภาพอากาศ เช่น วันนี้อากาศดีก็เดินมากหน่อย วันนี้อากาศแย่ก็เดินน้อยหน่อย
ซึ่งผลคือทีมที่เดินวันละ 20 ไมล์ สามารถพิชิตขั้วโลกใต้ได้ก่อน แล้วรอดชีวิตกลับมาได้
จริง ๆ ยังมีรายละเอียดอีกเยอะ ที่ทีม 2 วางแผนต่างจากทีมแรก เช่น สัตว์ที่ใช้ลาก อาหารที่เตรียม ไปจนถึงจุดตั้งต้นออกเดินทาง แนะนำให้ไปลองหาอ่านกันครับ สนุกมากกก
.
ทีนี้หลักการเดินทุกวัน อย่างสม่ำเสมอนี้ ได้มีการนำมาปรับใช้ และ ต่อยอดเรียกว่า 20 Mile March Concept
แปลง่าย ๆ ว่า ทำอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำ ไม่ว่าสภาพแวดล้อม ปัจจัยต่าง ๆ จะดี หรือ เลวร้ายเพียงใด ก็จะต้องทำต้องเป้านี้ให้ได้
ซึ่ง 20 Mile March Concept ได้รับยกย่องว่า เป็นหลักคิดสำคัญหนึ่ง ที่ช่วยสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับคนหรือบริษัท
ความสม่ำเสมอ ความมีวินัยนี่เอง ที่เป็นหนึ่งในสิ่งวสร้างความแตกต่าง
.
ยกตัวอย่างเช่น อยากจะลดน้ำหนัก ก็ตั้ง 20 Mile March ว่า ต้องออกกำลังกายให้ได้ สัปดาห์ละ 3 วันเป็นต้น ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม
หรือ อย่างบางองค์กร อาจจะตั้งเป้าว่า จะขยายสาขา ปีละ 4 สาขาให้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นต้น
.
ถามว่า ถ้าวันไหนดี จังหวะดี ๆ ทำไมเราไม่ทำให้เยอะ ๆ เกินไปเลยหล่ะ จริง ๆ อยากจะให้คิดอย่างคือว่า เป้าที่ตั้งมันต้องท้าทาย และเพียงพอ ทั้งในตอนสถานการณ์ดีและไม่ดี
การตั้ง 20 Mile March ก็ควรจะทดลองทำแบบเล็ก ๆก่อน ดูว่าเวิร์คมั้ย จะได้ปรับให้เหมาะสม รวมถึงประเมินความเสี่ยง ต่าง ๆ ให้รอบด้าน
และ 20 Mile March นี้ไม่ต้องมีเยอะครับ เอาเนื้อ ๆ เน้น ๆ พอ
.
ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ ผมว่าเป็นคอนเซปที่เข้าใจ ง่ายใช้ได้จริง ลองไปหากันครับ ว่า 20 mile march ของเราคืออะไร ที่ต้องทำให้บรรลุให้ได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อพาเราไปสู่เป้าหมาย …จะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือ เรื่องงานก็ได้
ความต่อเนื่อง ทุ่มเทอย่าง สม่ำเสมอ เป็นอีกปัจจัยของความสำเร็จครับ