#Gamification ตอนที่2
เมื่อวานเราคุยกันไปว่า เกมทุกวันนี้ได้ออกแบบมาให้เราติด ซึ่งจุดนึงที่น่าสนใจคือ ตัวเกมไม่เคยบังคับเราเลย ว่าต้องทำอะไรบ้าง …. เกมทำได้แต่จูงใจเรา
เกมสามารถทำให้เรารู้สึกว่า กิจกรรมในเกมนั้นน่าสนใจ คุ้มค่าที่จะเสียเวลาเล่น กระทั่งคุ้มค่าที่จะเสียเงินจริง ๆ ลงไปซื้อของในเกม ซึ่งไม่มีประโยชน์ในชีวิตจริงเลย
ต่างจากการทำงาน หรือ การเรียนในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งที่เราทำนั้นเราได้เงินจริง ได้ความรู้ ได้ประโยชน์จริง แต่บางครั้งเรากลับไม่รู้สึกจูงใจ แถมรู้สึกเป็นภาระเสียอีก
ซึ่งน่าสนใจมาก
ก็เลยมีบางคนถึงกับบอกว่า แท้จริงแล้วเราควรจะเรียกนักออกแบบเกมว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้าง Engagement เลยนะ เพราะเค้าจูงใจคนได้เก่งมากกก
เมืองนอกได้ศึกษาเพื่อหาว่ามี Engagement Element อะไรซ่อนอยู่ในเกมบ้าง ศึกษากันจริงจังเลย เป็นวิชาด้านจิตวิทยา แล้วเขาได้มีการทดลองเอาไอ้ element เหล่านั้นไปใส่ในสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เกม
เขาพบว่าก็ทำให้งานอื่นที่เคยน่าเบื่อ กลับสนุกขึ้น คนเต็มใจทำมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องบังคับอีกต่อไป
และการทำแบบนี้ได้ถูกเรียกว่า Gamification
โดยมีการให้นิยามของ Gamification ไว้ว่า “The use of game elements and game design techniques in non-game context”
สังเกตดูนิยามนะ เขาบอกว่าคือการเอา Element กับ Technique ของเกมไปใช้กับส่ิงที่ไม่ใช่เกม เขาไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนงานให้เป็นเกม หรือ เล่นเกมในที่ทำงาน
Gamification ไม่ได้ขีดวงจำกัดอยู่ที่การเล่นเกม มันไปได้ใหญ่กว่านั้น
เขียนยาวเกินไปละ วันหลังมาคุยกันต่อครับ
เดี๋ยวตอนหน้า ๆ เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า อาจจะเห็นภาพได้ง่ายขึ้น
